ภาพยนต์ระทึกขวัญ สยองขวัญ The Black Phone (2021) สายหลอน ซ่อนวิญญาณ เมื่อการหายตัวไปของเด็กๆ ที่น่ารักกลายเป็นข่าวโด่งดังประจำท้องถิ่น ผู้ปกครองต่างหวาดผวากับคดีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักสืบไม่สามารถคลี่คลายคดีได้ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เมื่อผู้ต้องสงสัยยังคงแฝงตัวอยู่ในชุมชนและเฝ้าดูเหยื่อที่เขาต้องการลักพาตัว กำกับโดย สกอตต์ เดอริคสัน จากผลงานเรื่อง The Day the Earth Stood Still (2008) , Sinister (2012) , Deliver Us from Evil (2014) และ Imaginary (2024) ตุ๊กตาซาตาน

แกร็บเบอร์ (รับบทโดยอีธาน ฮอว์ค) ชายลึกลับที่มาพร้อมกับของเล่นที่เด็กๆ ชื่นชอบ เขามักจะปรากฎตัวตามสถานที่จัดเลี้ยงและสวนสนุก แม้แต่บริเวณของโรงเรียนหรือมุมถนนที่ๆ เขามักจะเฝ้าดูการใช้ชีวิตของเด็กๆ หลังเลิกเรียนและในวันหยุดสุดสัปดาห์

ฟินนี่ (รับบทโดยเมสัน เทมส์) และ เกวน ชอว์ (รับบทโดยแมดเดอลีน แม็กกรอว์) สองพี่น้องที่หาทางกลับบ้าน พวกเขาได้แยกทางกันก่อนที่จะพบว่า ฟินนี่ ถูกหลอกล่อโดยแกร็บเบอร์ ชายปริศนาที่สวมหน้ากากผีที่ต้องการจับเข้าไปขังเอาไว้ในห้องลึกลับที่ไม่มีใครหาพบ

ในที่สุด ฟินนี่ ตื่นขึ้นมาในห้องที่ถูกกักขังพร้อมกับข่าวการหายตัวไปของเขาเองและคำเยาะเย้ยของแกร็บเบอร์ แต่การช่วยเหลือได้มาถึงโดยที่เขาเองก็ไม่อาจจะเชื่อเมื่อ โมรา โรบิน (รับบทโดยมิเกล กาซาเรซ) เด็กที่ถูกจับตัวไปก่อนหน้านี้และเสียชีวิตไปแล้วได้ติดต่อเขาผ่านโทรศัพท์เครื่องเก่า เพื่อช่วยเหลือเขาในการกำจัดแกร็บเบอร์และหลบหนีออกจากที่นั้น โดยที่ไม่ให้ แกร็บเบอร์ รู้ตัว

แวนซ์ ฮอปเปอร์ (รับบทโดยเบรดี เฮปเนอร์) และเด็กผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นๆ ที่เคยจับตัวไปก่อนหน้านี้ พยายามที่จะบอกสถานที่ขุมคังของ แกร็บเบอร์ ภายใต้ห้องใต้ดินซึ่งกลายเป็นที่ซ่อนศพ แต่ฆาตกรก็ได้ย้ายห้องกักขังไปยังบ้านหลังใหม่ของน้องชายที่ไม่รู้จักตัวตนของเขาในอีกด้าน

สุดท้ายแล้วนักสืบและเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามติดตามคนร้ายด้วยเบาะแสเดียวที่ได้มาจาก ฟินนี่ ที่ระบุที่ซุกซ่อนศพของเด็กรายอื่นๆ ที่เคยหายตัวไปก่อนหน้านี้ แต่กว่าการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง วิญญาณของเด็กๆที่เคยถูกจับตัวได้พา ฟินนี่ หลบหนีด้วยวิธีการต่าง ที่ทำให้เขาเข้าใกล้อันตรายมากขึ้นทุกทีแล้วสุดท้ายเรื่องราวจะจบลงอย่างไร ?