Bose Frames แว่นฟังเพลง 3 รุ่น 3 สไตล์ จะใส่กันแดดก็เท่ หรือจะใส่ฟังเพลงก็ล้ำ

นอกจาก Bose จะเปิดตัวหูฟังไร้สาย TWS ระดับเรือธงรุ่นใหม่อย่าง QuietComfort Earbuds ไปแล้ว ก็ยังเปิดตัวแว่นกันแดดฟังเพลงล้ำๆ ซีรีส์ Frames ออกมาอีก 3 รุ่น คือ Frames Tenor, Frames Soprano และ Frame Tempo ซึ่งทั้ง 3 รุ่นก็จะมีสไตล์แตกต่างกันออกไปทั้งแนวใส่แล้วดูหรูหรา หรือแนวสปอร์ตสมบุกสมบัน แต่ที่มีเหมือนกันคือความล้ำในการเชื่อมต่อกับมือถือเพื่อใช้ฟังเพลง หรือคุยโทรศัพท์นั่นเองครับ

แว่นตา Bose Frames ที่เปิดตัวมาใหม่ทั้งหมด 3 รุ่นนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 สไตล์ด้วยกันคือรุ่น Frames Tenor กับ Frames Soprano จะเน้นใส่แบบสวยหรูดูดี โดยรุ่น Tenor เป็นแว่นสำหรับผู้ชาย และรุ่น Soprano สำหรับผู้หญิง ส่วนรุ่น Frame Tempo เป็นแว่นสไตล์สปอร์ตเน้นออกกำลังที่พ่วงเอามาตรฐานกันน้ำมาด้วย มีดีไซน์ใส่ได้ทั้งชาย-หญิง

BOSE FRAMES TENOR / FRAMES SOPRANO

แว่นกันแดดดีไซน์เรียบหรู ที่มีกรอบและเลนส์สีดำสนิท ถ้าหากมองเผินๆ มันก็จะเหมือนกับแว่นดำทั่วไป แต่จริงๆ แล้วมันมากับเทคโนโลยี Open Ear Audio ที่ Bose พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งขาแว่นทั้งสองข้างจะมีลำโพงซ่อนเอาไว้ และเมื่อเชื่อมต่อกับมือถือผ่านระบบ Bluetooth 5.1 ก็จะสามารถเล่นเพลงออกมาทางลำโพงของแว่นได้เลย โดยไม่ต้องเอาหูฟังมายัดหูให้อึดอัด

นอกจากจะฟังเพลงได้แล้ว Bose Frames ยังใช้คุยโทรศัพท์ได้อีกด้วย เนื่องจากมันมีไมโครโฟนในตัวที่ไวต่อเสียงพูด แต่สามารถกรองเสียงลม หรือเสียงรบกวนอื่นๆ ออกไปได้

Bose Frames Tenor

Frames Soprano

การควบคุมเพลง หรือรับสายโทรศัพท์ก็ทำได้ง่ายผ่านระบบสัมผัสที่บริเวณขาแว่นด้านขวา โดยการใช้นิ้วรูดไปตามทางยาวเพื่อปรับระดับเสียง หรือแตะ 2 ที เพื่อเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ นอกจากนี้ยังมากับเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อถอดแว่นออกแล้วพับขาเก็บ ระบบก็จะหยุดเพลง และปิดอัตโนมัติ

Bose Frames Tenor และ Frames Soprano มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้ราวๆ 5 ชั่วโมงครึ่ง และใช้เวลาชาร์จจาก 0% – 100% ในเวลาราวๆ 1 ชั่วโมง ด้วยสายชาร์จเฉพาะรุ่นแบบ 4-pin

BOSE FRAMES TEMPO

แว่นรุ่นนี้เชื่อมต่อกับมือถือเพื่อเล่นเพลงผ่านลำโพงที่ขาแว่นเช่นเดียวกัน ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ จะเหมือนกันหมด แต่มาในดีไซน์สไตล์สปอร์ต ดูสมบุกสมบันและโฉบเฉี่ยวกว่า แถมยังได้รับมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ซึ่งกันได้ทั้งเหงื่อและฝนตก

แว่นรุ่นนี้ยังมากับแบตเตอรี่ที่อึดกว่า โดยสามารถเล่นเพลงต่อเนื่องได้ถึง 8 ชม. และใช้เวลาชาร์จกลับจนเต็มที่ 1 ชั่วโมง

ตอนนี้ Bose Frames ทั้ง 3 รุ่น เริ่มวางจำหน่ายแล้วในสหรัฐอเมริกา โดยมีราคาเท่ากันที่ 249.95 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,800 บาท (ยังไม่รวมภาษี) ส่วนจะมีโอกาสเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราด้วยรึเปล่า อันนี้ต้องรอติดตามกันอีกทีครับ

Related Content

WordPress › Error

There has been a critical error on this website.

Learn more about debugging in WordPress.